ทรงอย่างแบด ซาฟารีเวิล์ด

กลายเป็นกระแสอยู่ไม่น้อย สำหรับเพลงชาติวัยรุ่นฟันน้ำนม ที่น้อง ๆ หนู ๆ ร้องกันกระจาย มีหลากหลายคลิป ออกมาเรียกรอยยิ้ม สำหรับ ทรงอย่างแบด ของวง Paper planes ที่มีสองสมาชิกอย่าง “ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ” นักร้องนำ กับ “เซน นครินทร์ ขุนภักดี” มือเบส โดยวันนี้ ซาฟารีเวิลด์ เตรียมแตก เพราะว่า สองหนุ่มจะไปแสดงโชว์ เซอร์ไพรส์ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ วันเด็กแห่งชาติ 2566

ซึ่งตอนนี้ กระแสนิยมเพลงทรงอย่างแบดไม่ได้ถูกใจเพียงแค่วัยรุ่นฟันน้ำนม ด้วยเหตุว่ากำลังลามไปถึง วัยรุ่นฟันปลอม หลังจากที่มีคลิปโยกหัว กันกระจุย ในงานเปิด โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา ขณะที่วัยรุ่นฟันผุ อย่าง “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” ที่ปลาบปลื้มทั้งสองหนุ่ม เป็นอย่างมาก ถึงกับขนาดขอร่วมเฟรม พร้อมเผยภาพรวมทั้งแคปชั่นในอินสตาแกรมว่า “ร้องเมื่อเช้าเจอน้องตอนบ่าย ขวัญใจฟันน้ำนมแล้วยังขวัญใจฟันผุด้วยนะครับ” ทำแฟนคลับเข้ามาเมนต์ฮากันกระจาย

สูงอายุ

ทรงอย่างแบด กระหึ่ม ! Paper Planes ทำสวนสัตว์แทบแตก-แถมน้องโลมา… คิวอย่างเป๊ะ !!

ทรงอย่างแบดฟีเวอร์จัด ปังไม่ไหว ! Paper Planes ขึ้นโชว์วันเด็ก 2566 ที่ซาฟารี เวิลด์ วัยรุ่นฟันน้ำนม พร้อมใจร้องดัง กระหึ่มลั่นสวนสัตว์ ฝูงน้องโลมากระโดด โชว์ตัวถูกจังหวะ รู้คิวสุด ๆ

กะจะทำเซอร์ไพรส์ เหล่าแฟนๆวัยรุ่น ฟันน้ำนม ในวันเด็กปี 2566 แต่แผนของ 2 หนุ่มสุดร็อก ฮาย ธันวา และก็ เซน นครินทร์ จากวง Paper Planes ก็ดันมาถูกเฉลยคำตอบเสียก่อน ว่าจะไปจัดคอนเสิร์ตที่สวนสัตว์ ซาฟารี เวิลด์ ทำให้งานนี้ เหล่าผู้ปกครองต่างจัดเตรียมความพร้อม พาลูก ๆ มุ่งตรงไปร้องเพลง “ทรงอย่างแบด” กันอย่างใจจดใจจ่อ

และก็ถึงวันเด็กแห่งชาติ ที่เหล่าวัยรุ่นฟันน้ำนม รอคอย งานนี้ก็มีผู้ปกครอง จากทั่วสารทิศ มารวมตัวกันที่สวนสัตว์ ซาฟารี เวิลด์ กว่า 5,000 คน กระทั่งเกิดเป็นปรากฏการณ์ วงร็อกสวนสัตว์แตก หากแม้ทั้งสองหนุ่ม จะมาโชว์แค่เพลงเดียว เพราะต้องไปทำงาน ของวงต่อ แต่เมื่อเสียงเพลงทรงอย่างแบด ดังขึ้น เด็ก ๆ ก็พร้อมใจกัน ร้องเสียงดัง ฟังชัด กระหึ่มลั่นสวนสัตว์เลยทีเดียว

แถมยังปิดท้ายโชว์ สุดประทับใจ ด้วยฝูงน้องโลมาที่กระโดด ขึ้นมาจากสระ ได้เข้ากับจังหวะเพลงสุด ๆ ทำให้งานนี้ได้ใจวัยรุ่นฟันน้ำนมแล้วก็ผู้ปกครองไปเต็ม ๆ

นอกเหนือจากนั้น ฮาย Paper Planes ยังได้กล่าวความรู้สึก ที่มาร้องเพลงในวันนี้เหตุว่า “เรารู้สึกว่า ซาฟารีเวิลด์ เป็นที่แรกที่ทำให้พวกเราได้เห็นคลิปและก็ได้รู้จักกับน้อง ๆ เราเลยมีความรู้สึกว่าวันเด็กนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เจอกับน้อง ๆ เลยขอทางทีมงาน ติดต่อทาง ซาฟารีเวิลด์ เพื่อมาเจอกับน้อง ๆ แบบจริง ๆ

และก็เราต้องการขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ ของน้อง ๆ ที่ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลกัน พวกเราอาจจะถูกเรียกว่าเป็นหัวหน้าแก๊ง แต่ผมคิดเสมอว่าตัวเองเป็นพี่ ๆ ของน้อง ๆ ผมเองก็ยังไม่ได้อยู่ในวัย ที่ทุกอย่างถูกต้อง ยังมีผิดบ้างแล้วก็ดีบ้าง แต่ผมมั่นใจว่าเราแล้วก็ผู้ปกครองจะร่วมมือกันพาน้อง ๆ ไปอยู่ในจุดที่สมเหตุสมผลและก็อยู่ในจุดที่ดีที่สุด ขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ ที่ซัพพอร์ตพวกเราและ สร้างมาตรฐานใหม่ การไม่ตัดสิน คนจากภายนอก”

ซาฟารีเวิล์ด

เปิดประวัติ ‘Paper Planes’ หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม

มาทำความรู้จัก ‘Paper Planes’ หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม ผู้ครอบครองผลงาน เพลงสุดได้รับความนิยม ‘ทรงอย่างแบด(Bad Boy)’

Paper Planes วงร็อกอัลเทอร์เนทีฟ จากค่าย Genie records ที่ประกอบไปด้วย 2 สมาชิก ฮาย ธันวา (ร้องนำ) และก็ เซน นครินทร์ (เบส) เดบิวต์อย่างเป็นทางการในช่วงปี พ.ศ. 2560 ภายใต้โปรโปรเจกต์อัลบั้ม Showroom Vol.3 แล้วก็ปล่อยผลงานเพลงแรก ออกมาในชื่อเพลง ก่อนเสียเธอไป ต่อด้วย ซ้ำซ้ำ, เก็บฉันไว้ทำไม, คำตอบเดิม, กุหลาบพิษ, ไร้ความหมาย, ความคิดถึงที่ส่งไปไม่ถึง และก็ กำหมัด

จนกระทั่งเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา พวกเขาก็ได้ออกมา ปล่อยเพลง ป๊อปพังก์ สุดร้อนแรง ที่มีรายละเอียด กระแทกใจ คนฟังอย่างเพลง ‘เสแสร้ง Feat. MOON’ พร้อมกวาดยอดวิว บนยูทูบไปกว่า 102 ล้านวิว (ข้อมูลวันที่ 14 ม.ค.66) นับได้ว่าเป็นผลงานเพลงที่ที่ทำให้ Paper Planes เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ต่อมาในช่วงปลายปี Paper Planes ก็ได้กลับมาสาดความฉบับป๊อปพังก์ ผ่านเพลง ‘ทรงอย่างแบด(Bad Boy)’ ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการเพลงไทย ด้วยการเป็นเพลงฮิตที่แก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนมในยุคนี้ชื่นชอบ

ซาฟารีเวิล์ด Paper Planes

วันนี้ จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ ‘Paper Planes’ หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนมให้มากขึ้นกว่าเดิม

เดิมที Paper Plane ประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คนด้วยกัน ได้แก่ ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ, หยก คีตเมศร์ ฉันทเกษมคุณ และ แจ๊ส ฤทธิ์อำนาจ ขวานทอง ก่อนที่ แจ๊ส จะลาออกจากวงไปด้วยเหตุผลส่วนตัว ทำให้วงมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาคือ ‘เซน นครินทร์ ขุนภักดี’ และ หลังจากปล่อยเพลง หลอกลวง ไปได้ไม่นาน หยก ก็ได้ลาออกจากวงไปด้วยเหตุผลส่วนตัว ทำให้เดี๋ยวนี้ Paper Planes มีสมาชิกทั้งหมด 2 คน คือ ฮาย แล้วก็ เซน

พวกเรามาเริ่มทำความรู้จักกัน ที่นักร้องนำ อย่าง ‘ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ’ หรือที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักกันในฐานะ ‘HYE’ ศิลปินเดี่ยว ที่มีผลงานเพลงได้รับความนิยมติดหูมากมาย ผ่านการปล่อยโปรเจกต์ของตนในชื่อ Side Project ที่ประกอบด้วย10 เพลงฮิต อย่าง ไอฟาย, ล้อเล่นได้มั้ย, ทักมาเอาไร, เพื่อนสัมพันธ์, จิ๊กซอว์, ติดอยู่ที่เดิม, ด้วยรักและ F*CK YOU (FU), แบบนี้เอง, ระยะเพื่อน และ ยินดีด้วยนะ

นอกจากนี้ ‘HYE’ ยังเป็นโปรดิวเซอร์มือทอง, ซาวด์เอ็นจิเนียร์ ผู้อยู่เบื้องหลังดนตรี และการสร้างผลงานคุณภาพออกมาประดับวงการ T-POP ไว้มากมาย ได้แก่

เพลงอยู่ดีๆก็หาย ของ Wonderframe ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 148ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงมูเตลู ของ Pixxie ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 14ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงหักหลัง ของ Retrospect ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 12ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงโดนเท่แต่เท่อยู่ ของ bamm ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 10ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงดอกไม้ไฟ ของ Mirrr ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 29ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงไม่ได้ก็ไม่เอา ของ Pixxie ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 8ล้านวิวบนยูทูบ
เพลงเขาไปแล้ว ของ Wonderframe ที่กวาดยอดวิวไปกว่า 86ล้านวิวบนยูทูบ

Paper Planes

มาต่อกันที่หัวหน้าแห่งแก๊ง วัยรุ่นฟันน้ำนม คนที่ 2 อย่าง ‘เซน นครินทร์ ขุนภักดี’

ตำแหน่งมือเบสประจำวง ‘Paper Planes’ ซึ่ง เซน ได้เริ่มเข้ามาเป็นมือเบสประจำวงในช่วงซิงเกิล ‘ซ้ำซ้ำ’

“ทรงอย่างแบดแซดอย่างบ่อย เธอไม่อินกับผู้ชาย bad boy
ทรงอย่างแบดแซดอย่างบ่อย เธอไม่รักฉันก็คงต้องปล่อย
โธ่พ่อหนุ่ม bad boy bad boyทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย
ปล่อยเธอไปกับไอ้หนุ่ม good boy…”

ท่อนฮุกสุดมันจากเพลง ‘ทรงอย่างแบด(Bad Boy)’ บทเพลงที่มีรายละเอียด บอกแทนใจ คนทรงแบด หรือคนที่มีภาพลักษณ์ภายนอก ราวกับแบดบอย ที่มักจะถูกตัดสินว่าเจ้าชู้ แต่ความจริง คือเสียใจบ่อยครั้งมาก จนถึงสามารถเรียกได้ว่า “ทรงอย่างแบดแซดอย่างบ่อย”

ซึ่งเพลงนี้ เกิดขึ้นจาก การที่ฮายไปมองเห็นโพสต์ในไอจีสตอรี่ ของเพื่อนที่มีข้อความประมาณว่า “ทรงโคตรแบด แซดโคตรบ่อย” แล้วเกิดความคิดที่จะนำมาแต่งเป็นเพลง โดย ‘ฮาย’ และก็ ‘เซน’ ได้เล่าถึงที่มาเพลงนี้ว่า “ปกติเรามักถูกมองจากภายนอกว่า

ดูลุคแบด ๆ ดูแข็งกร้าว ก็เลยเข้าใจว่า พวกเราเป็นคนแบบนั้น แต่จริง ๆ พวกเราก็ไม่ได้แข็งกร้าวขนาดนั้น เราเป็นคนปกติกลาง ๆ คนนึงเลย ตอนแรกเพลงนี้ ไม่ได้อยู่ในแพลน ที่พวกเราจะทำกัน

แต่จู่ๆวันที่พวกเราตกลงกันว่า จะไปนั่งทำเพลง เราดันนึกถึงเรื่องนี้ แล้วคิดต่อไปว่าถ้าทำออกมาเป็นเพลง น่าจะเป็นอะไรที่สนุกดี เลยลองทำเพลงนี้ขึ้นมาก่อน เป็นเพลงแรก ซึ่งใช้เวลาวันเดียว ก็ได้ทั้งยังเนื้อร้อง รวมทั้งดนตรีจบเลย เพราะตอนทำเรารู้สึกสนุกมาก”

ซึ่งหลังจากที่ Paper Planes ปล่อยเพลงนี้ออกมาได้ประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ ก็ได้มีไวรัล ‘ทรงอย่างแบด’ เกิดขึ้นในโลกโซเชียล

โดยเริ่มจากการมีคลิปที่เด็กวัยอนุบาล ร้องเพลงนี้ขึ้น มาอย่างสนุกสนาน ในท่อนว้ากหนัก ๆ ที่ร้องว่า “โธ่พ่อหนุ่ม bad boy bad boy” ที่ ซาฟารีเวิลด์ จากนั้นก็มีคลิปสวย ๆ ของเด็ก ๆ

ออกมาอย่างตลอด จนกระทั่งกระทั่งเริ่มมี ผู้ปกครองอุ้มน้อง ๆ หนู ๆ มาดู Paper Planes เล่นสดมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขนาดที่ ฮาย ต้องบอกก่อนจบคอนเสิร์ตว่า

“สัญญาได้ไหมว่าถ้าดูการแสดงดนตรีจบแล้ว จะไปแปรงฟันกัน ก่อนนอนอย่าลืมแปรงกันนะโอเคไหม” พร้อมทิ้งท้ายว่า “ทำไม ชีวิตผมถึงเปลี่ยนไปเยอะ ขนาดนี้ (หัวเราะ)” ด้วยเหตุผลนี้ก็เลยทำให้เพลง ‘ทรงอย่างแบด’ กลายไปเป็นเพลงชาติ ที่วัยรุ่นฟันน้ำนม รู้สึกชื่นชอบ รวมทั้งทำให้ Paper Planes ได้รับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนม ไปนั่นเอง

Paper Planes ทรงอย่างแบด

โดย ทรงอย่างแบด ‘ฮาย ธันวา’ ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลง

รวมทั้งความรับผิดชอบ ที่ต้องเพิ่มมากขึ้นของ Paper Planes ในคราวนี้ผ่านคลิป วิดีโอสัมภาษณ์ จากรายการ WOODY FM ว่า “ผมผมรู้สึกว่า เรานึกถึงหนังพวกซูเปอร์ฮีโร่ คือผมไม่ได้รู้สึกเป็นซูเปอร์ฮีโร่นะ แต่ว่ามันน่าจะเปรียบเทียบได้ดี คือวันนึงที่ซูเปอร์ฮีโร่มีพลังอะไรขึ้นมา เขาจะมีภารกิจที่ต้องทำ กู้โลก ไปต่อสู้กับปีศาจร้าย แต่ว่าในระหว่างทางนั้นพลังของเขาก็มีผลเสียอยู่ อย่างเช่นการทำบ้านเมืองพัง การทำอะไรไปโดยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ การที่วันนึงผมมาเป็นหัวหน้าแก๊ง เวลาเด็ก ๆ เขาชอบเราบางเรื่อง เด็ก ๆ เขาซึมซับไปได้เร็ว โดยที่เขาไม่ได้ตัดสิน หรือว่าเขาไม่สามารถวิเคราะห์ได้ อะไรที่มันสุ่มเสี่ยง หรือที่มันไม่สามารถอธิบายได้ ณ ตอนนั้นผมจะเลี่ยงก่อน แต่อะไรที่อธิบายได้ ผมจะอธิบายเลย อย่างเช่น การดื่มเหล้าเบียร์ สูบบุหรี่ ผมว่าสุดท้ายแล้วเด็กแค่ต้องรู้ว่าอันไหนเป็นข้อดี หรือข้อเสีย แล้ววันนึงเขาก็จะรับมันไปเอง แม้ว่ามันจะเป็นข้อดีหรือข้อเสียก็ตาม แต่ที่สำคัญคือเขาต้องรู้ว่ามันมีผลยังไง ทั้งในผลดีและผลเสีย ผมเลยคิดว่าเราจะต้องคิดเรื่องนี้กันมากขึ้น เพราะเด็ก ๆ ก็ติดตามเยอะมากขึ้นครับ”